วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

สอนเด็ก ท.ด

วันนี้ครูจำเป็น1วัน เพราะว่าครูที่โรงเรียนเก่าเขาให้มาช่วยสอนเด็กเต็น ไม่รู้ว่าจะได้เรื่องป่าว แต่จะสอนให้เต็มที เต็มความสามารถของเรา แต่บอกเลยว่าเด็กทีนี้น่ารักมากบอกอะไรฟัง ค่อยดูว่าวันที่29 จะเป็นอย่างไร💋💋💜💝💘👍👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏

เพื่อน

ทุกคนจัดจะต้องมีเพื่อนกันอยู่ แต่มันขึ้นอยู่ว่าคนนั้นจะสนิทหรือป่าว บ้างครั้งจะทะเลาะกันป่าว แต่ยังไงก็เป็นเพื่อนกันอยู่#คำว่าเพื่อนยังไงก็เป็นเพื่อนเรา#
.เพื่อนคือ
.คนที่ให้คำปรึกษา
.รับฟัง
.บอก
.ไม่ทิ้งกัน

ปั้น monsta x

ใครชอบmonsta x ช่วยกันหน่อยนะค่ะ
พึ้งรีวิวเมื่อว่า ใครชอบใครรักก็ช่วยกันหน่อยนะค่ะ  ถึงจะไม่ชอบก็เห้ย แต่อยากให้ช่วยกันหน่อยนะค่ะ 😀😁😂😃😄😍😘😙💕💜💓💞

เกรดเทอมนี้

เกรดเทอมนี้ ก็ไม่ได้แย่อะไรมาก เกรด็เท่าเดิม แต่ว่าระดับจะตก แต่ฉันก็ทำเติมทีแล้ว
ไม่เป็นเทอมน่าเอาใหม่ ฉันจะทำให้ดีเลยค่ะ จะส่งงานให้ตรงเวลา หรือจะส่งก็เวลา
เทอมนี้แย่เทอมน่าจะเอาใหม่

วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

ภูเก็ต

ภูเก็ต

ท็อป 10 สถานที่ท่องเที่ยว

วัดฉลองหรือวัดไชยธาราม

วัดฉลองหรือวัดไชยธาราม ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต เป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี ที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา นอกจากนี้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวยังนิยมมานมัสการและปิดทองรูปปั้นหลวงพ่อแช่ม ผู้ช่วยเหลือชาวภูเก็ตจาก "กบฎอั้งยี่" ในสมัยรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อชื่นและหลวงพ่อเกลื้อม ซึ่งชาวภูเก็ตและผู้มีจิตศรัทธาเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถช่วยขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้

ศาลเจ้าบางเหนียว

ศาลเจ้าบางเหนียว จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
หรือมูลนิธิเทพราศี เป็นศาลเจ้าจีนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "ศาลเจ้าต่าวโบ้เก๊ง" หรือ "ฉ้ายตึ๋ง" ศาลเจ้าแห่งนี้จัดพิธีกินเจและขบวนแห่เจ้าอย่างยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งมักจะตรงกับช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นงานที่มีผู้มาร่วมเทศกาลงานบุญกันอย่างหนาแน่น รับรองว่าเป็นประสบการณ์พิเศษอย่างหนึ่งที่คุณควรไปดูสักครั้งในชีวิต

เมืองเก่าภูเก็ต ชิโน-โปรตุกีส (Sino-Portuguese)

เมืองเก่าภูเก็ต ชิโน-โปรตุกีส ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
เป็นกลุ่มตึกโบราณกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองภูเก็ตบริเวณ ถนนพังงา ถนนถลาง ถนนเยาวราช ถนนดีบุก และถนนกระบี่ ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองภูเก็ต ตึกเหล่านี้เป็นอาคารโบราณรุ่นยุคอาณานิคมมีศิลปะผสมระหว่างตะวันตกและตะวันออก มีอายุกว่าร้อยปีสร้างขึ้นจั้งแต่พ.ศ. 2446 ถือเป็นแถบการค้าเก่าแก่ของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นย่านร้านอาหารยอดนิยม มีร้านอาหารดังๆ ประจำเมืองในเขตนี้อยู่หลายร้าน

วัดพระทอง (วัดพระผุด)

องค์พระผุด ณ วัดพระทอง (วัดพระผุด) ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
วัดคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอถลางมาช้านาน มีพระพุทธรูปที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ มีเรื่องเล่ากันว่าพระผุดนี้ทหารพม่าพยายามจะขุดเอาไปเมื่อครั้งมาตีเมืองถลาง แต่ไม่สามารถทำได้ ชาวบ้านจึงนับทองมาปิดองค์พระผุดด้วยความเคารพบูชาจนองค์พระเป็นสีทองอร่ามและเป็นที่มาของชื่อวัดทั้งสองชื่อ นอกจากนี้ภายในวัดยังก็มีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น “พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง” ที่จัดแสดงวัตถุและข้าวของเครื่องใช้ของชาวถลางในอดีตและชาวจีนที่อพยพมาในสมัยโบราณอีกด้วย

แหลมพรหมเทพ

แหลมพรมเทพ ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของจังหวัดซึ่งห่างจากหาดราไวย์ไม่มาก เป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์อัสดงที่สวยสุดในประเทศไทย และเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวรวมถึงชาวภูเก็ตเองก็นิยมมาเยือน แหลมพรหมเทพนี้เป็นแหลมที่อยู่ทางใต้สุดของภูเก็ต ลักษณะเป็นแหลมโค้งไต่ระดับลงสู่พื้นทะเล ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันก็ยังมีประภาคารกาญจนาภิเษก สร้างขึ้นในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการสร้างประภาคาร การรักษาเวลามาตรฐาน การคำนวณ และแสดงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก และบนยอดของประภาคารก็ยังเป็นจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งด้วย

จุดชมวิวเขาขาด

จุดชมวิวเขาขาด จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวมะขาม แหลมพันวา มีหอชมวิวเขาขาดเป็นหอแปดเหลี่ยมสำหรับชมวิว 360 องศา เป็นจุดชมวิวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ต ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวอ่าวมะขาม อ่าวภูเก็ต แหลมพันวา เกาะไม้ท่อน เกาะรายาน้อย แหลมกาน้อย อ่าวฉลอง จุดชมวิวแห่งนี้ให้บริการเข้าชมฟรีและที่จอดรถฟรีด้วย

พิพิธภัณฑ์เปลือกหอยภูเก็ต

พิพิธภัณฑ์เปลือกหอยภูเก็ต ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
ตั้งอยู่ใกล้หาดราไวย์ เป็นแหล่งรวบรวมเปลือกหอยหลายลวดลายหลากสีสันจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 2000 ชนิด มีฟอสซิลแอมโมไนต์ (Ammonite Fossil) หรือปลาหมึกโบราณอายุกว่า 350 ล้านปี เปลือกหอยอายุหลายร้อยล้านปี เปลือกหอยยักษ์น้ำหนักกว่า 250 กิโลกรัม และไข่มุกสีทองหนัก 140 กะรัต พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดจากการศึกษาและตั้งใจจะเผยแพร่ความรู้ของคุณสมนึก ปัทมคันธิน เจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่ศึกษา รวบรวม และสะสมเปลือกหอยมากว่า 40 ปี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ให้ข้อมูลอธิบายถึงหอยชนิดต่างๆ ได้อย่างละเอียดและน่าสนใจ

ภูเก็ตแฟนตาซี (Phuket Fantasy)

ภูเก็ตแฟนตาซี (Phuket Fantasy) จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
ตั้งอยู่บริเวณหาดกมลา เป็นแหล่งบันเทิงยามราตรีที่โชว์การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผสมผสานเทคนิคพิเศษสไตล์ลาสเวกัส เวทีการแสดงสร้างอยู่ในโรงละครในร่มขนาดใหญ่ไม่ต้องกลัวฟ้าฝน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารร้านขายของที่ระลึกและหัตถกรรมไทยต่างๆ ให้คุณเลือกช้อปกันอย่างสนุกสนาน

หาดป่าตอง

หาดป่าตอง ภูเก็ต ภาคใต้ ไทย
เป็นหาดทรายขาวยาวกว่า 9 ก.ม. เหมาะสำหรับการเล่นน้ำทะเล อาบแดด และกิจกรรมทางทะเล เช่น เจ็ตสกีหรือสปีดโบ้ท หาดแห่งนี้ถือเป็นย่านท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุดของภูเก็ต เพราะมีทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า ตลาดนัดกลางคืน แหล่งท่องเที่ยวยามราตรี



เชียงใหม่


เชียงใหม่

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร (Wat Phra That Doi Suthep)

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
มาเชียงใหม่ทั้งทีถ้าไม่ขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพล่ะก็เขาถือกันว่ามาไม่ถึงเมืองเชียงใหม่ เพราะพระธาตุแห่งนี้คือวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองล้านนามาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันตกของเมือง โดดเด่นด้วยพระธาตุสีทองอร่ามมองเห็นได้จากระยะไกล มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและสามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่ได้ทั่ว สามารถขึ้นดอยเพื่อกราบไหว้พระธาตุได้ด้วยบันไดพญานาค 300 ขั้น หรือหากเดินไม่สะดวกก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นลงได้ และพระธาตุดอยสุเทพแห่งนี้ยังได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 4 ในด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์จากโครงการเสน่ห์เมืองยิ้มในปี 2557 อีกด้วย

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (Wat Phra Singh)

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัย พ.ศ. 1888 มีอุโบสถเก่าแก่เป็นวัดทรงหลังคาหน้าจั่วตามศิลปะแบบล้านนาดูสวยงามแปลกตา โดยเป็นวัดที่ใช้บรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู เจ้าผู้ครองแคว้นล้านนาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของอาณาจักร แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องไม่พลาดที่จะมาสักการะสักครั้งนั่นก็คือพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปโบราณที่มีความสำคัญต่อชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมาก และในช่วงสงกรานต์ของทุกๆ ปี ชาวเชียงใหม่จะอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปตามถนนรอบเมืองเพื่อสรงน้ำรับปีใหม่ และนำความเป็นสิริมงคลให้แก่ชาวเมือง

วัดเชียงมั่น (Wat Chiang Man)

วัดเชียงมั่น
อีกหนึ่งวัดกลางเมืองเชียงใหม่อันเป็นที่เคารพสักการะมาอย่างช้านาน และยังเป็นวัดแห่งแรกและวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเชียงใหม่ด้วยอายุที่มากกว่า 700 ปีอีกด้วย แต่เดิมวัดนี้เป็นพระตำหนักของพญามังรายผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะถวายเป็นพระอารามในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของพระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว ซึ่งองค์พระทำมาจากแก้วใสบริสุทธิ์เหมือนแฝดของพระแก้วมรกต เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวเหนือจากเมืองลำพูนในอดีต และยังมีการสร้างฉัตรทองคำหนัก 123 บาทประดับเพชรถวายประดับเหนือพระเกศาของพระแก้วขาวอีกด้วย

พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ (Bhubing Ratchaniwet Palace)

พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
พระตำหนักประทับแปรพระราชฐานฤดูหนาวในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ใกล้กับดอยสุเทพในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ภายในเขตพระราชฐานสวยงามด้วยอาคารทรงไทยแบบเรือนหมู่ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยสามารถเดินชมสถานที่โดยรอบที่มีการประดับประดาด้วยสวนตกแต่งทั้งสวนกุหลาบ สวนเฟิร์น และไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ และยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง ซึ่งพระตำหนักนี้เคยเป็นสถานที่ต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากต่างแดนมาแล้วหลายครั้ง

ดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon)

ดอยอินทนนท์
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสูง เมื่อไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วต้องไม่พลาดดอยอินทนนท์ เพราะยอดดอยแห่งนี้เองคือยอดเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย โดยสูงมากกว่า 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีอากาศหนาวเย็นทั้งปี ปกคลุมด้วยป่าที่มีความหลากหลายทั้งป่าสน ป่าดงดิบ และป่าผลัดใบ อุดมไปด้วยจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งน้ำตก ผา ถ้ำ และพันธุ์สัตว์ป่าอย่างนกหายาก ไม่ใช่แค่นี้ ดอยนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวเด่นทางวัฒนธรรมคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและโอบล้อมด้วยสวนดอกไม้และพรรณไม้เมืองหนาว จึงไม่น่าแปลกใจที่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยได้รับการโหวตเป็นอันดับ 4 ในด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีเสน่ห์ที่สุดในโครงการเสน่ห์เมืองยิ้มประจำปี 2557 จากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีหมอกปลกคลุมดอยตลอดทั้งวันและยังมีน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่มีอากาศหนาวจัด ซึ่งดอยอินทนนท์เคยมีอากาศหนาวถึงอุณหภูมิติดลบมาแล้ว

ดอยอ่างขาง (Doi Ang Khang)

ดอยอ่างขาง
ยอดดอยชื่อดังที่ตั้งอยู่ในอำเภอฝาง มีระยะห่างจากชายแดนพม่าเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น บนดอยมีเป็นลักษณะพื้นที่แอ่งกระทะบนความสูง 1,400 เมตร เดินทางค่อนข้างยากจากเส้นทางที่คดเคี้ยวและต้องใช้รถมีแรงขับและผู้ชำนาญทางจึงสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจห้ามใครให้ไปสัมผัสอากาศอันหนาวของที่นี่ได้ ซึ่งจะหนาวจัดในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม ซึ่งในช่วงนี้ คุณจะได้ฟินกับสวนดอกไม้และพืชพรรณเมืองหนาว ที่รวมถึงสวนดอกบ๊วย สวนบอนไซ และซากุระเมืองไทยหรือดอกพญาเสือโคร่ง ที่ไม่ต้องบินไปดูถึงญี่ปุ่น และในช่วงหนาวจัดนี้ยังสามารถพักชมแม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งยามเช้าตรู่ได้อย่างงดงาม และดอยแห่งนี้ได้รับการโหวตให้อยู่ในอันดับ 5 ในด้านสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีเสน่ห์ที่สุดจากโครงการเสน่ห์เมืองยิ้มของปี 2557 จากความสวยงามที่ทำให้ลืมความเหนื่อยระหว่างการเดินทางไปเป็นปลิดทิ้ง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (Omkoi Wildlife Sanctuary)

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
เขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนล่างของเชียงใหม่ไปจนถึงจังหวัดตาก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่ผู้คนเรียกกันอย่างติดปากจากชื่อแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร โดยอมก๋อยมีแนวป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก และมีไฮไลท์เด็ดในช่วงฤดูหนาวซึ่งจะมีต้นกุหลาบพันปีออกดอกเบ่งบาน และมีต้นกุกลาบพันปีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยงอกงามอยู่ที่นี่อีกด้วย นอกจากนี้ภายในเขตยังมีที่เที่ยวสวยๆ อย่างดอยม่อนจองซึ่งเป็นแหล่งรวมสัตว์นานาชนิดอย่างเช่นกวางผา นกอินทรีปีกดำ และเหยี่ยวนกเขาท้องเขา ซึ่งเป็นสัตว์หายากในประเทศไทย

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี (Chiang Mai Night Safari)

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
หากเบื่อแล้วกับการชมสวนสัตว์ธรรมดาๆ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีก็อาจเป็นคำตอบใหม่สำหรับการรับชมสัตว์แบบใกล้ชิด โดยที่นี่เป็นสวนสัตว์ที่เปิดให้รับชมทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่คุณจะได้ตื่นเต้นไปกับการนั่งรถชมสัตว์ป่าแบบซาฟารีด้วยการใช้ไฟสปอร์ตไลท์ส่องดูสัตว์ ชมอิริยาบถต่างๆ ของสัตว์กินเนื้ออย่างเช่นสิงโต เสือ และหมาไฮยีน่าในยามค่ำคืน แล้วผ่อนคลายไปกับการชมสัตว์กินพืชอย่างยีราฟ ม้าลาย ฮิปโปโปเตมัส และลามะ รวมทั้งสัตว์พันธุ์หายากอย่างเสือขาวและสิงโตขาว ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 10 ด้านสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโครงการเสน่ห์เมืองยิ้มประจำปี 2557 จนต้องลองไปสัมผัสความแปลกใหม่ของสวนสัตว์ในยามค่ำคืนให้ได้สักครั้ง

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Luang Ratchapruek Garden)

อุทยานหลวงราชพฤกษ์
อุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นสถานที่ที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2554” ซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรกของโลก ภายในมีพื้นที่กว้างขวางซึ่งจัดแสดงสวนกลางแจ้งและสวนในร่มแบบต่างๆ มากมาย สามารถเพลิดเพลินไปกับพรรณไม้เมืองหนาว พรรณไม้จากต่างประเทศ และชมจุดที่สวยที่สุดของอุทยานซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของงานคือหอคำหลวง อาคารทรงไทยแบบศิลปะล้านนาที่หน้าอาคารอร่ามตาไปด้วยสีทอง แม้ว่าจะจบงานมหกรรมไปหลายปีแล้ว แต่สวนก็ยังคงสวยงามและเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมจนถึงปัจจุบัน

ถนนคนเดินเชียงใหม่ (Chiang Mai Walking Street)

ถนนคนเดินเชียงใหม่
แหล่งท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ที่เหล่าขาช็อปและนักชิมต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง กับถนน 2 สายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนคนเดินเชียงใหม่ ได้แก่ถนนวัวลายที่ปิดถนนเป็นตลาดนัดให้คนเดินในวันเสาร์ และถนนท่าแพที่ปิดถนนให้คนเดินเที่ยวในวันอาทิตย์ ชมสินค้าและของที่ระลึกพื้นเมืองอันหลากหลายของชาวเหนือในราคาถูก และที่สำคัญที่สุดคือของกิน! ถนนคนเดินเชียงใหม่ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งเรื่องของกินเล่นแสนอร่อยจากหลากหลายร้านค้าตลอดทางจนได้รับการโหวตจากเหล่านักท่องเที่ยวให้เป็นสุดยอดอันดับ 1 ของสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ที่มีเสน่ห์มากที่สุดจากโครงการเสน่ห์เมืองยิ้มในปี 2557 ที่ไม่ควรพลาดทุกครั้งเมื่อเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่


วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

การเจริญเติบโตของกบ

การเจริญเติบโตของกบ
           ไซโกตที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์จะต้องมีกระบวนการเจริญเติบโต เพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเต็มวัยที่สมบูรณ์ กระบวนการดังกล่าวต้องถูกต้องแม่นยำ มิฉะนั้นจะทำให้ร่างกายผิดปกติได้ เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นต้น
            คำถามนำ
ไซโกตมีการเปลี่ยนแปลงจนเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเต็มวัยได้อย่างไร และสัตว์แต่ละชนิดมีการเจริญเติบโตเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร

          กระบวนการที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตมี 4 กระบวนการ คือ การแบ่ง เซลล์ ของไซโกตเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ที่ให้เอ็มบริโอประกอบด้วยเซลล์ที่คล้ายเซลล์เดียวกันจำนวนมากแต่ยังไม่มีการพัฒนาไปทำหน้าที่จำเพาะ เมื่อเซลล์ได้รับสารอาหารเพียงพอก็จะ มีการเพิ่มขนาดของเซลล์หรือการ  เติบโต (growth) ต่อจากนั้นเซลล์แต่ละกลุ่มจะมีการเปลี่ยนแปลง เป็นเซลล์ที่มีลักษณะเฉพาะเพื่อทำหน้าที่เฉพาะ อย่าง (celldifferentaition) เช่น เป็นเซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท เป็นต้น เซลล์ที่เหมือนกันจะรวมตัวเป็นเนื้อเยื่อและพัฒนาไปเป็นอวัยวะต่างๆ กระบวนการพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นอวัยวะและเกิดเป็นรูปร่าง เรียกว่า  มอร์โฟเจเนซิส  (morphogenesis)



 ภาพที่ 11-13 การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ไปเป็นเซลล์ที่มีลักษณะเฉพาะ
          นักเรียนทราบได้อย่างไรว่าสัตว์มีการเจริญเติบโต และจะวักการเจริญเติบโตได้อย่างไร
          เมื่อพิจารณาจากกราฟแสดงการเจริญเติบโตของสัตว์ชนิดหนึ่งโดยการวัดความยาว


 
ภาพที่ 11-14 กราฟแสดงความยาวของสัตว์ชนิดหนึ่ง
               -สัตว์ชนิดนี้มีลำตัวยาวเต็มที่เมื่ออายุเท่าไร
              -ช่วงอายุเท่าไรที่กราฟมีความชันมากที่สุด นักเรียนคิดว่าอัตราการเจริญเติบโตในช่วงนี้เป็นอย่างไร
              -นักเรียนคิดว่าเส้นกราฟในระยะหลังจากสัตว์มีอายุ25วันไปแล้วมีแนวโน้มเป็นอย่างไร และสัตว์ชนิดนี้ยังมีการเจริญเติบโตอยู่หรือไม่ เพราะเหตุใด
          จากกราฟจะเห็นได้ว่าเมื่อสัตว์มีอายุมากขึ้นจะมีการเจริญเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระยะหนึ่งก็จะหยุด หลังจากระยะนั้นผ่านไปแล้วเส้นกราฟก็จะไม่สูงขึ้นอีก การเจริญเติบโตในลักษณะเช่นนี้เป็นแบบแผนของการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป
              -นักเรียนคิดว่ามีวิธีใดอีกบ้างที่จะใช้วัดการเจริญเติบโตของสัตว์ แต่ละวิธีมีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร
               -นักเรียนคิดว่าสัตว์แต่ละชนิด มีการเจริญเติบโตตลอดชั่วอายุของสัตว์หรือไม่
        โดยทั่วไปการวัดการเจริญเติบโตของสัตว์มีหลายวิธี วิธีที่นิยมมากก็คือ การหามวลของสัตว์ที่เปลี่ยนไป หรือการวัดความสูงแต่บางกรณีความสูงอาจไม่เพิ่มในอัตราส่วนเช่นเดียวกับมวลดังนั้นการวัดความสูงจึงเป็นการคาดคะเนการเจริญเติบโต
                 สิ่งที่น่าศึกษาคือการเจริญเติบโตของสัตว์แต่ละชนิดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร  การศึกษาการเจริญเติบโตของสัตว์ในระดับนี้จะกล่าวถึงการเจริญเติบโตของสัตว์บางชนิด เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงแบบแผนของการเจริญเติบโต
การเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและสัตว์บางชนิด
           สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว เช่น อะมีบา พารามีเซียม หลังจากการแบ่งเซลล์จะมีการเพิ่มขนาดของเซลล์จนมีขนาดเท่ากับเซลล์ทั่วไป
           สัตว์หลายเซลล์โดยทั่วไปที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศการเจริญเติบโตจะเริ่มจากไซโกตมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเอ็มบริโอซึ่งรายละเอียดของการเจริญเติบโตในสัตว์แต่ละชนิดอาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่พอจะนับได้ว่ามีขั้นตอนและแบบแผนการเจริญเติบโตคล้ายคลึงกัน ในที่นี้จะกล่าวถึงการเจริญเติบโตของสัตว์มีกระดูกสันหลังบางชนิดได้แก่ กบ และไก่ ซึ่งใช้เป็นตัวแทนในการศึกษากระบวนการเจริญเติบโตของสัตว์ทั่วไป

          การเจริญเติบโตของกบ
          เซลล์ไข่ของกบไม่มีเปลือกแข็งหุ้มแต่มีวุ้นห่อหุ้มอยู่โดยรอบเมื่อลอยน้ำจะเห็นด้านที่มีสีเหลืองอยู่ด้านล่าง เนื่องจากมี ไข่แดง (yolk) ซึ่งเป็นอาหารสะสมอยู่มาก ส่วนด้านบนสีเทาเข้มจนเกือบเป็นสีดำ เนื่องจากมีสารสีอยู่หนาแน่นที่บริเวณใกล้ผิวของเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ ดังภาพที่ 11-15


 
ภาพที่ 11-15 การเจริญเติบโตของกบ

               รู้หรือเปล่า
               การแบ่งเซลล์ของไซโกตจะมีแบบแผนแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและการกระจายตัวของไข่แดงภายในเซลล์ไข่ เช่น พวกที่มีไข่แดงน้อย ได้แก่ เม่นทะเลสัตว์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่มีรกจะมีแบบแผนในการแบ่งเซลล์ไซโกตต่างจากพวกที่มีไข่แดงมาก เช่น นก และ สัตว์เลื้อยคลาน

            จากการศึกษาการเจริญเติบโตของกบ ดังภาพที่ 11-15สามารถสรุปการเปลี่ยนแปลงในระยะเอ็มบริโอของกบ ได้ 4 ขั้นตอนคือ  คลีเวจ (cleavage)  บลาสทูเลชัน  (blastulation) แกสทรูเลชัน  (gastrulation) และ ออร์แกโนเจเนซิส  (organogenesis)

            คลีเวจ
          เป็นกระบวนการที่ไซโกตมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสอย่างรวดเร็วทำให้ได้เอ็มบริโอที่มีจำนวนเซลล์เพิ่มขึ้น แต่ขนาดของแต่ละเซลล์ของเอ็มบริโอเล็กลงตามลำดับ เมื่อสิ้นสุดระยะคลีเวจจะได้เอ็มบริโอที่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก
     
            บลาสทูเลชัน
         เป็นกระบวนการที่เซลล์ของอ็มบริโอมีการจัดเรียงตัวเป็นชั้นอยู่รอบนอก ตรงกลางเป็นช่องว่างที่มีของเหลวบรรจุอยู่เต็มเรียกว่า  บลาสโทซีล (blastocoel) เรียกเอ็มบริโอระยะนี้ว่า  บลาสทูลา  (blastula)

          แกสทรูเลชัน
         เป็นกระบวนการที่เซลล์มีการเคลื่อนที่และจัดเรียงเป็นตัวเป็นเนื้อเยื่อชั้นต่างๆ โดยมีการเคลื่อนที่ของเซลล์ในลักษณะต่างๆ กันเช่น กลุ่มเซลล์ชั้นนอกบุ๋มตัวเข้าไปข้างใน หรือมีการม้วนตัวเข้าไปในช่องว่างภายในเอ็มบริโอ เป็นต้น เอ็มบริโอที่ผ่านกระบวนการนี้จะมีรูปร่างต่างไปจากเดิม ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น คือ เอกโทเดิร์ม (ectoderm)  เมโซเดิร์ม  (mesoderm) และ  เอนฌดเดิร์ม  (endoderm) เรียกเอ็มบริโอระยะนี้ว่า  แกสทูลา (gastrula)

          ออร์แกโนเจเนซิส
          เป็นกระบวนการที่เนื้อเยื่อทั้ง 3 ชั้นของเอ็มบริโอมีพัฒนาการไปเป็นอวัยวะต่างๆ

         ตัวอ่อน  (larva) ของกบที่ฟักออกจากไข่ เรียกว่า ลูกอ๊อดจะมีลักษณะแตกต่างไปจากพ่อแม่ ซึ่งจะต้องมีการเลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะการดำรงชีวิตหลายครั้ง เรียกกระบวนการนี้ว่าเมทามอร์โฟซิส(metamorphosis) จนกระทั่งได้สัตว์ที่มีลักษณะเหมือนกับพ่อแม่
          -การเจริญของสัตว์ที่มีเมทามอร์โฟซิสแตกต่างจากสัตว์ที่ไม่มีเมทามอร์โฟซิสอย่างไร พร้อมทั้งยกตัวอย่างสัตว์ที่มีเมทามอร์โฟซิสแบบต่างๆ

 กิจกรรมเสนอแนะ
             ให้นักเรียนนำไข่ของสัตว์สะเทินบก เช่น ไข่กบ เขียด คางคก ที่วางไข่ตามแหล่งน้ำต่างๆ มาศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเอ็มบริโอ และวาดภาพลักษณะของเอ็มบริโอหลังจากศึกษาเสร็จแล้วควรนำสัตว์ไปปล่องยังแหล่งน้ำ