วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Museum Trad



พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตจังหวัดตราด ตั้งอยู่บนถนนสันติสุข ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด โดยตั้งอยู่ภายในศาลากลางหลังเก่า ซึ่งมีมนต์ขลังและประวัติ ศาสตร์ที่ยาวนาน ย้อนกลับไปถึงในรัชสมัยของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6




โดยแต่เดิมนั้น อาคารหลังนี้ใช้เป็นสถานที่ราชการของจังหวัดตราด มีลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง แต่ต่อมาเมื่อศูนย์ราชการได้ย้ายไปที่ทำการใหม่ อาคารหลังนี้ก็ถูก ปล่อยให้ว่างเปล่าเป็นเวลานานจนสภาพอาคารเสื่อมโทรมไปหมดทั้งหลัง




ต่อมากรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียนศาลากลางจังหวัดตราดหลังเก่าให้เป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ ๑๘ ธ.ค.๒๕๓๙ เล่มที่ ๑๑๓ ตอน พิเศษ ๕๐ง หน้า ๓ และเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๔๗ อาคารศาลากลางจังหวัดตราดหลังเก่าซึ่งเป็นโบราณสถาน ได้ถูกเพลิงไหม้เกือบทั้งหลังเหลือไว้แต่เสา โดยฝีมือของคน สติฟั่นเฟือนที่เข้ามาพักอาศัยหลับนอน




ปี พ.ศ.๒๕๔๘ ข้าราชการ ประชาชนชาวตราดได้ร่วมกันพิจารณาเห็นว่า น่าจะบูรณะอาคารศาลากลางจังหวัดตราด หลังเก่าที่ถูกไฟไหม้ขึ้นมาใหม่ ให้คงรูปแบบเดิมเพื่อจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวจังหวัดตราด โดยขอให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ออกแบบ และประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งกรมศิลปากร ได้ดำเนินการบูรณะ ซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารหลังเก่าได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๙


Museum Trad



อาคารพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด (Trat Museum)




ตั้งอยู่ที่ถนนสันติสุข ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2465 (สมัยรัชกาลที่ 6) เพื่อเป็นศาลากลางจังหวัดตราด ลักษณะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมอาณานิคม สร้างเป็นเรือนไม้ เสาปูน ยกพื้น ใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา เมื่ออาคารชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา กระทรวงมหาดไทยเกรงจะไม่ปลอดภัยต่อบุคลากรและผู้มาติดต่อราชการ จึงสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดตราดขึ้นใหม่ กรมศิลปากรจึงขึ้นทะเบียนศาลากลางหลังเดิมให้เป็นโบราณสถานของชาติ

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2547 อาคารหลังนี้ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหลัง ประชาชนและข้าราชการจังหวัดตราดเห็นควรบูรณะอาคารขึ้นใหม่ เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถาน เทศบาลเมืองตราดจึงจัดสรรงบประมาณประจำปี 2548 เป็นเงิน 16,140,000 บาท เพื่อให้กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะซ่อมแซมอาคารตามรูปแบบเดิมพร้อมปรับสภาพภูมิทัศน์ จนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2549 หลังจากนั้นใน พ.ศ.2550 จังหวัดตราดขอความอนุเคราะห์กรมศิลปากรปรับปรุงอาคารแห่งนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจึงดำเนินการทางวิชาการและเทคนิคจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถาน ด้วยงบประมาณประจำปี 2553-2555 ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นเงิน 19,700,000 บาท

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 กรมศิลปากรได้ส่งมอบพิพิธภัณฑสถานเมืองตราดให้เทศบาลเมืองตราดดำเนินการบริหารจัดการพิพิธภัณฑสถานแห่งนี้เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้มรดกวัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตเมืองตราด


ภายในอาคารพิพิธภัณฑสถานเมืองตราด จัดแบ่งห้องแสดงภาพถ่ายเหตุการณ์และวัตถุโบราณออกเป็น 6 โซนด้วยกันคือ1. มรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งชาติ
2. ผู้คนเมืองตราด
3. ลำดับทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์เมืองตราด
4. เหตุการณ์สำคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
5. เหตุการยุทธนาวีเกาะช้าง
6. ตลาดเมืองตราด


วัน เวลา และการให้บริการ
♦ วันอังคาร - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
♦ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. - 16.30 น. (หยุดวันจันทร์)


อัตราค่าเข้าชม พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด 1. เด็ก ส่วนสูงเกินกว่า 100 เซนติเมตรขึ้นไป 5 บาท
2. ผู้ใหญ่ 10 บาท
3. เด็กต่างชาติ ส่วนสูงเกินกว่า 100 เซนติเมตรขึ้นไป 10 บาท
4. ผู้ใหญ่ต่างชาติ 30 บาท

Trat museum

Museum Trad

 


พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
ถนนสันติสุข ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด
เปิดวันอังคาร-วันศุกร์ ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. วันเสาร์-อาทิตย์ ๐๙.๓๐-๑๖. ๓๐ น. (ปิดวันจันทร์)
ไม่เก็บค่าเข้าชม
อนุญาตให้ถ่ายภาพ

Museum Trat The road to peace . Some of the district town . Trat . Open Tuesday - Friday 9:00 to 16:00 pm . Saturday - Sunday 09.30-16 . 30 hrs. ( Closed Mondays) . No admission fee Allow Shooting

Museum Trad


หัวข้อสุดท้าย คือ ตลาดเมืองตราด จำลองร้านรวงในขนาดและสภาพเหมือนจริง ผู้ชมชอบการถ่ายภาพหรือเยี่ยมชมของจริงอย่างใกล้ชิดสามารถกระทำได้เต็มที่ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของพิพิธภัณฑ์ในฐานะ “แหล่งเรียนรู้” ถึงมรดกวัฒนธรรมและวิถีชีวิตผู้อื่น โดยไม่ต้องคำนึงถึงมารยาทและความเกรงใจมากเท่าในโลกของความเป็นจริง ในสายตาของผู้เคยชมพิพิธภัณฑ์มามากแห่ง ที่นี่อาจไม่มีสิ่งโดดเด่นนัก แต่ในถิ่นที่พิพิธภัณฑ์ยังดูเป็นสถานที่ราชการและอาจเป็นเรื่องไกลตัว นับว่าน่าดีใจที่ในตอนสายๆ ของวันหยุดมีพ่อแม่ขี่จักรยานยนต์พาลูกมาเยี่ยมชมประปราย หากจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องให้ชาวตราดได้มีส่วนร่วมสม่ำเสมอ ที่นี่ก็น่าจะสร้างบรรยากาศของความเป็นมิตรและมีประโยชน์ต่อท้องถิ่นได้มากขึ้น

Museum Trad

หัวข้อที่สี่ว่าด้วย เหตุการณ์สำคัญในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะการจำลองฉากที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ พระราชทานพระแสงราชศัสตราประจำเมืองตราดในคราวเสด็จฯ เยือนครั้งที่ ๑๒ หลังจากฝรั่งเศสคืนเมืองตราดให้ไทย ต่อด้วย เหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง สร้างฉากให้ผู้เข้าชมรู้สึกว่ากำลังอยู่บนเรือรบลำหนึ่งในช่วงที่เกิดยุทธนาวีนั้น หากนั่งฟังเรื่องราวจากวีดิทัศน์อย่างสงบแล้วอาจเกิดความรู้สึกร่วมได้ไม่ยาก
The four topics Key events in the reign of King Rama V. Especially the scene where King Rama 5 Lgneklgaฯ foil sword Royal City Trad time has come. Visit to France after the 12th night of Trat to Thailand with the Battle of Ko Chang. Create a scene that visitors feel they are on a ship during a naval battle there. If you enjoy listening to stories from VHS peacefully and potential common sense is not difficult.

Museum Trad

ห้องแรกว่าด้วยมรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งตราด มีโทรทัศน์ฉายสารคดีสั้น ๆ ดูและฟังพร้อมชมหุ่นจำลองเมืองตราดกลางห้องได้ หัวข้อถัดมาคือ ผู้คนเมืองตราด มีหุ่นพ่อค้าแม่ค้าและชนกลุ่มต่างๆ พอเป็นฉากถ่ายรูปสนุกตามสมัยนิยม หัวข้อที่สามว่าด้วย ลำดับทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์เมืองตราด นำวัตถุโบราณมาจัดแสดงเป็นตัวอย่าง ราวภาคบังคับ ที่น่าสนใจคือกลองมโหระทึกจำลองประกอบเรื่องเล่าว่าของจริงมีชาวตราดขุดพบและตั้งศาลเซ่นสรวงบูชาทุกปี ณ ตำแหน่งใกล้เคียงกับที่พบนั้น

Museum Trat

   เหตุการณ์ครั้งนั้นนำมาสู่แนวคิดสร้างอาคารขึ้นใหม่ด้วยรูปลักษณ์เดิม โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและดำเนินการด้วยงบประมาณราว ๑๖ ล้านบาท แล้วเสร็จในเดือนกันยายน ๒๕๔๙ ต่อมากระทรวงวัฒนธรรมตั้งงบประมาณให้กรมศิลปากรจัดทำพิพิธภัณฑ์ แล้วส่งมอบให้เทศบาลเมืองตราด ดำเนินการบริหารจัดการ หลังจากมีผู้มาเยือนล้นหลามในวันเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ราวหนึ่งเดือนหลังจากนั้น สถานที่นี้ก็ยังดูเงียบเหงา ชาวเมืองตราดส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้นักว่ามีพิพิธภัณฑ์พร้อมชม บางคนยืนยันว่าพิพิธภัณฑ์มีตามวัดเท่านั้น กอปรกับลักษณะของอาคารไม้ใต้ถุนสูงหลังยาวที่อยู่ในรั้วล้อม ดูน่าเกรงขามจนอาจไม่กล้ามาเยือน

   ขั้นบันไดกลางค่อนข้างสูงชันกำหนดให้นำทางสู่ประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ทางด้านขวาก็จะพบส่วนต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่หลังเคาน์เตอร์ซึ่งให้ข้อมูลต่าง ๆ ยังไม่คล่องนัก จากนั้นจะเข้าสู่ห้องจัดแสดงที่กำหนดไว้ ๖ หัวข้อ อ่านหน้าต่อไปนะค่ะ ที่เป็นหัวข้อ